มาดูวิธีไล่ยุงแบบง่ายๆด้วยของในครัว บ้านใครยุงชุมแนะนำให้ลอง

Last updated: 20 เม.ย 2560  |  1470 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มาดูวิธีไล่ยุงแบบง่ายๆด้วยของในครัว บ้านใครยุงชุมแนะนำให้ลอง

มาดูวิธีไล่ยุงแบบง่ายๆด้วยของในครัว บ้านใครยุงชุมแนะนำให้ลอง


“ยุง” ศัตรูตัวจิ๋ว ที่เพื่อนๆ พบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคงไม่มีเพื่อนๆ คนไหนชอบกันอย่างแน่นอน  เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพของเพื่อนๆ ได้นั้นเอง  วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ในการไล่ยุง ไม่ให้เข้าภายในบ้าน ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยการใช้สมุนไพรมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

“ยุงลาย” พาหะของโรคไข้เลือดออก

เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ สำหรับโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากยุงลายเป็นพาหะของโรค   โดยโรคไข้เลือดออกนั้น มีโอกาสเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่   ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงบริเวณน้ำขัง หรือ บริเวณที่เป็นแหล่งชุกชุมของเจ้ายุงตัวร้าย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้เลือดออกค่ะ
อาการของโรคไข้เลือดออก

ไข้สูง  39 – 40  องศาเซลเซียส  ประมาณ 2-7 วัน รวมถึงมีอาการปวดเมื่อยตามตัว และ  ศรีษะร่วมด้วย
มีอาการอาเจียนเป็นเลือด  มีจุดเลือดออกตามตัว และ ถ่ายเป็นสีดำ
ตับโต และมักมีอาการเจ็บบริเวณชายโครงข้างขวา

ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ หรือ อาจส่งผลมีภาวะช็อกได้
คราวนี้มารู้จัก “สมุนไพรป้องกันยุง” กันค่ะ


1. กระเทียม
ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นค่อนข้างแรงและฉุน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่ช่วยไล่ยุงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากยุงไม่ชอบกลิ่นฉุนของกระเทียมนั้นเอง

วิธีการทำ เพียงนำกระเทียมไปทุบให้พอแตก เพื่อที่ให้มีน้ำออกมา จากนั้น นำใส่ภาชนะแล้วไปวางตามจุดต่างๆ บริเวณบ้าน  ซึ่งน้ำมันที่ระเหยออกมานั้นจะส่งกลิ่น ทำให้ยุงไม่กล้าเข้ามาใกล้ รวมไปถึงมดและแมลงต่อๆ อีกด้วยค่ะ


2. กะเพรา
เป็นสมุนไพรที่เพื่อนๆ ต้องคุ้นเคยกันอย่างแน่นอน เพราะมักจะนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆ อย่างมากมาย   ซึ่งก็เป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่สามารถไล่ยุงได้เหมือนกันค่ะ

วิธีการทำ นำกะเพราไม่ว่าจะเป็นใบหรือยอดจำนวนหนึ่ง  มาขยี้ให้เกิดกลิ่น แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ บริเวณบ้าน ซึ่งข้อเสียของกะเพรานั้น กลิ่นจะระเหยหมดเร็ว จึงต้องคอยเปลี่ยนกระเพราอยู่ตลอดค่ะ


3. พริกไทยดำ
เมื่อพูดถึงพริกไทยดำ หลายคนอาจจะนึกถึงความเผ็ดร้อน รวมไปถึงกลิ่นที่ฉุนแสบจมูกด้วยเช่นกัน ซึ่งความฉุนของเจ้าพริกไทยดำนี่แหละ ที่สามารถไล่ยุงได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

วิธีการทำ ซึ่งก็ไม่ต่างจากข้ออื่นๆ เลย เพียงนำพริกไทยดำมาทุบให้พอหยาบ จากนั้นเทใส่ภาชนะแล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ ของบ้านค่ะ


4. ลูกมะกรูด
เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่มีประโยชน์สารพัดจริงๆ เลยนะคะ สำหรับลูกมะกรูด ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร หรือ ความสวยความงาม อีกทั้งกลิ่นฉุนของลูกมะกรูดนั้น ยังสามารถนำมาไล่ยุงได้อีกด้วยนะคะ

วิธีการทำ นำลูกมะกรูดไปหั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อให้ได้น้ำมันระเหย ที่มีกลิ่นฉุน จากนั้นนำใส่ภาชนะและไปวางตามจุดต่างๆ ของบ้านได้ตามต้องการเลยค่ะ


5. ต้นสะเดา
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ที่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของต้นสะเดาสดหรือเมล็ด  และที่สำคัญน้ำที่สกัดจากต้นสะเดานั้น  ยังสามารถนำไปใช้ไล่ยุง ได้เช่นกัน

วิธีการทำ สามารถทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ นำต้นสะเดามาสกัดน้ำ โดยการทุบหรือขยี้ให้เกิดเป็นน้ำ จากนั้นนำใส่ภาชนะ ไปวางบริเวณต่างๆ ภายในบ้านได้เลยค่ะ


6. สะระแหน่
ถือเป็นสมุนไพร ที่เพื่อนๆ ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน ด้วยกลิ่นที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์  มาพร้อมสรรพคุณมากมาย อาทิ  ช่วยบรรเทาอาการเครียด เป็นยาเย็น ดับร้อน และขับเหงื่อในร่างกาย  รวมไปถึงการใช้ไล่ยุงด้วยนั้นเองค่ะ

วิธีการทำ อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่าสะระแหน่นั้น มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ไล่ยุงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพียงขยี้สาระแหน่ และ นำไปวางตามจุดต่างๆ เพียงเท่านี้ยุงก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้แล้วค่ะ


7. ใบแมงลัก
พืชในสกุลกะเพราและโหระพา  โดยลักษณะของต้นจะคล้ายกับต้นกะเพรา แต่ต่างกันที่ใบและกลิ่นที่อ่อนกว่า หากไม่สังเกตอาจทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดได้  ซึ่งเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่สามารถไล่ยุงได้เหมือนกันค่ะ

วิธีการทำ จะเหมือนกับข้ออื่นๆ เลยค่ะ นำมาขยี้ แล้วใส่ลงในภาชนะ  จากนั้นไปวางบริเวณต่างๆ ของบ้าน กลิ่นของใบแมงลัก จะทำให้ยุงไม่กล้าเข้ามาใกล้ค่ะ


8. ตะไคร้หอม
ถือเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับสมุนไพรไล่ยุงเลยก็ว่าได้ สำหรับตะไคร้หอม เพราะมักมีการสกัด นำน้ำมันมาทำ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้สำหรับไล่ยุงหรือป้องกันยุง ซึ่งได้ผลดีเป็นอยากมากเลยทีเดียวค่ะ

วิธีการทำ สามารถทำได้ง่ายมากๆ เหมือนกับข้ออื่นๆ เลย  เพียงทุบตะไคร้หอมให้พอแตก แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ บริเวณบ้าน เพียงเท่านี้ก็สามารถไล่ยุงได้แล้วค่ะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก infinitydesign

บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้