6 วิธีทำให้ฟันขาวจากของใกล้ตัว ไม่ต้องกลัวสารเคมี

ฟันเหลืองไม่รู้จะทำให้ฟันขาวได้ยังไง สมุนไพรและผลไม้เหล่านี้ช่วยคืนความขาวให้ฟันคุณได้ ทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน !

          วิธีทำให้ฟันขาวด้วยสูตรจากธรรมชาติ ทำเองได้ที่บ้านแบบประหยัดสตางค์ โดยสูตรฟอกฟันขาวด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ นี้มาจากผลไม้ สมุนไพร และของใช้ใกล้ตัว ว่าแล้วก็มาดูวิธีทำให้ฟันขาวด้วยของจากธรรมชาติกันเลยดีกว่า

1. เปลือกส้ม

          นำเปลือกส้มไปตากแดดให้แห้งสนิท หลังจากนั้นบดให้ละเอียดแล้วนำไปแปรงฟัน ก่อนจะทำความสะอาดด้วยยาสีฟันธรรมดาอีกครั้ง เพียงเท่านี้ฟันของคุณก็กลับมาขาวสะอาดอย่างที่ใจต้องการแล้ว หรือถ้าหากไม่มีเวลามากขนาดนั้น อาจใช้ด้านในของเปลือกส้มสดมาถูกับฟัน เพื่อกำจัดคราบแทนก็ได้ค่ะ

2. เปลือกกล้วย

          ในเปลือกกล้วยมีแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม จึงเชื่อกันว่า เปลือกกล้วยพอช่วยขัดฟันให้ขาวได้อยู่เหมือนกัน ดังนั้นใครอยากลองสูตรนี้ก็เพียงนำเปลือกกล้วยด้านใน มาขัดถูที่ฟันให้ทั่ว นาน 1 นาที เป็นประจำทุกวันดูก็ได้จ้า 
 



3. แอปเปิล

          แค่เพียงกินแอปเปิลเท่านั้นก็สามารถช่วยให้ฟันขาววิ้งขึ้นมาได้ เนื่องจากแอปเปิลเป็นผลไม้มีกรดอ่อน ๆ และกรดดังกล่าวมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิวฟัน โดยเฉพาะคราบเหลืองจากชา กาแฟ หรืออาหารที่รับประทานเข้าไป หากกินแอปเปิลหลังมื้ออาหารที่ว่า ทั้งกรดและกากใยในแอปเปิลจะทำหน้าที่ขัดถูกคราบเหลืองบนผิวฟันของเรา แต่หลังจากกินแอปเปิลแล้ว จบมื้ออาหารแล้วก็ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อชะล้างคราบน้ำตาลที่ติดมากับแอปเปิลนั่นเอง

4. แครอท

          ถ้าลองสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ากระต่ายมีฟันที่ขาวสะอาดไร้คราบเหลืองเลยทีเดียว เพราะแครอทเองก็มีกรดอ่อน ๆ ที่ช่วยทำความสะอาดผิวเคลือบฟันของเราได้ไม่แพ้สรรพคุณด้านนี้ของแอปเปิลเลยล่ะ ดังนั้นหากจะลองกัดแครอทสักชิ้นหลังมื้ออาหาร เพื่อฟอกฟันให้ขาวขึ้นจากสูตรธรรมชาติก็ได้เหมือนกันจ้า

5. เบกกิ้งโซดา

          เบกกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นส่วนผสมในยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากหลาย ๆ ยี่ห้อ เนื่องจากสรรพคุณของเบกกิ้งโซดาซึ่งมีความเป็นด่าง จะช่วยลดความเป็นกรดบนผิวฟัน และลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้คุณสมบัติของเบกกิ้งโซดายังช่วยขจัดคราบหินปูนได้อีกด้วยนะคะ

          สำหรับการใช้เบกกิ้งโซดาขัดฟันขาว ก็แค่นำแปรงสีฟันที่ป้ายยาสีฟัน มาแตะผงเบกกิ้งโซดาเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็แปรงฟันตามปกติ ผงเบกกิ้งโซดาจะช่วยขัดผิวฟัน ลดคราบเหลืองที่ติดอยู่บนผิวฟันเราได้ นอกจากนี้หลังแปรงฟันเสร็จแล้ว ให้บ้วนปากด้วยเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำ 1 แก้ว สักพัก เพื่อให้เบกกิ้งโซดาช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากของเราไปด้วย

          หรือหากต้องการให้เบกกิ้งโซดาได้ทำหน้าที่ขัดฟันขาวอย่างเต็มความสามารถ ให้ลองผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา กับน้ำสะอาด 2 ช้อนชา จากนั้นคนส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมนั้นใช้แปรงฟันแทนยาสีฟัน สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ร่วมกับแปรงฟันตามปกติให้สะอาดหมดจด แต่ไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาร่วมกับน้ำมะนาว เพราะจะทำให้เคลือบฟันกร่อน ทำให้เสียวฟัน รวมทั้งเกิดฟันผุได้ง่าย


          อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาแปรงฟันบ่อยเกินไป เพราะมีโอกาสทำให้ฟันสึกก่อนได้ และหากใครใส่เหล็กจัดฟัน ห้ามใช้เบกกิ้งโซดาแปรงฟันเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องมือหลุดได้





6. แอปเปิลไซเดอร์

          ในน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลหรือที่เราเรียกกันว่า แอปเปิลไซเดอร์ มีส่วนประกอบสำคัญคือ กรดอะซิติก ซึ่งกรดที่ว่านี้มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกำจัดคราบพลัคในช่องปาก และด้วยความที่มีฤทธิ์เป็นกรด แอปเปิลไซเดอร์จึงมีส่วนช่วยให้ฟันขาวได้ แต่ก็ควรใช้แอปเปิลไซเดอร์แบบเจือจางกับช่องปาก เนื่องจากกรดอะซิติกมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน เนื้อเยื่อในปาก รวมไปถึงเนื้อเยื่อในลำคอเลยนะคะ

          ดังนั้นสูตรฟอกฟันขาวด้วยแอปเปิลไซเดอร์จึงควรผสมแอปเปิลไซเดอร์กับน้ำสะอาด ในปริมาณเท่า ๆ กับตอนใช้น้ำยาบ้วนปาก จากนั้นกลั้วปากด้วยน้ำส้มสายชูเจือจางนาน 2-3 นาที แล้วบ้วนน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อล้างกรดที่เคลือบผิวฟัน ที่สำคัญไม่ควรบ้วนปากด้วยแอปเปิลไซเดอร์ทุกวัน ใช้เพียงแค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอจ้า เพราะอย่าลืมว่าแอปเปิลไซเดอร์มีกรดที่ค่อนข้างแรงนะ

          อย่างไรก็ตาม สูตรฟอกฟันขาวจากของธรมชาติ ก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลว่าฟันขาวขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ชัด และคงต้องยอมรับว่าวิธีทำให้ฟันขาวจากของใกล้ตัว คงมีประสิทธิภาพไม่เท่าการฟอกฟันขาวด้วยเครื่องมือทันตแพทย์หรอกนะคะ ดังนั้นก็อย่าใจร้อน และที่สำคัญควรดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ อย่างการบ้วนปากหลังมื้ออาหารทุกครั้ง แปรงฟันให้ถูกต้อง พร้อมใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ฟันของเรามีสุขภาพดีได้นาน ๆ

          อ๊ะ...และหากไม่อยากต้องมาลำบากฟอกฟันให้ขาวเพราะเบื่อฟันเหลือง ๆ ของตัวเองจะแย่ ก็ควรต้องเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ฟันเหลืองด้วยนะคะ

cr. https://health.kapook.com