Last updated: 1 ก.ค. 2563 | 757 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนคงอุทานอยู่บ่อยๆ ว่านี่มันปีอะไรกันเนี่ย! แค่ครึ่งปีแรก 2563 เราก็เผชิญเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง ภาวะเศรษฐกิจ โรคระบาดและภัยธรรมชาติ ซึ่งที่หนักที่สุดจนทำให้โลกทั้งใบต้องหยุดชะงักก็คงหนีไม่พ้นโรค COVID-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าสามแสนรายจนถึงปัจจุบัน เฮ้อออ คำถามคือเมื่อไรเราถึงจะผ่านพ้นเรื่องแย่ๆ กันสักที แอดมินคงต้องบอกว่ายังต้องเตรียมตัวรับมืออีกหลายอย่างนะคะในครึ่งปี 2563 …อย่างน้อยรู้ล่วงหน้าก็จะได้เตรียมตัววางแผนกันทัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
1. ภาวะโลกร้อน
ปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานอย่างปัญหาโลกร้อน ดูจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้เต็มร้อยจริง ๆ จัง ๆ เสียที แม้ว่าจะมีการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกหรือโฟมก็แล้ว เปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าก็แล้ว หรือแม้แต่การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือรียูส แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่หมดไป อาจจะเนื่องมาจากธุรกิจอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ การใช้รถส่วนตัวซึ่งปล่อยมลพิษออกมาเยอะ รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ทั้งนั้น เราจะเห็นได้จากโลกของเราที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และสภาพอากาศที่แปรปรวนผิดปกติ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดความแห้งแล้งในหลาย ๆ พื้นที่ รวมไปถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ เช่น พายุฤดูร้อน พายุไต้ฝุ่น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และอื่น ๆ
แม้ว่าช่วงก่อนเราสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกกันไปได้เยอะ แต่พอมีวิกฤติไวรัส COVID-19 เข้ามา ร้านค้าต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องกลับมาใช้ถุง กล่องโฟม หรือแก้วพลาสติกเพื่อใช้สำหรับการ Take away ให้ลูกค้า ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันนะคะ อาจจะนำแก้วหรือกล่องสำหรับใส่อาหารไปเอง หรือแม้แต่การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เช่น หากจะไปไหนใกล้ ๆ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นการเดินดู หากเราสามารถทำได้ นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ยังถือเป็นการออกกำลังกายด้วยนะคะ แต่ก็อย่าลืมป้องกันตัวเองยามออกนอกบ้านดี ๆ นะ ใส่แมสและพกเจลแอลกอฮอล์ด้วยจ้า
2. น้ำท่วม
ปัญหาน้ำท่วมหรืออุทกภัยเป็นภัยธรรมชาติที่พี่น้องชาวไทยต้องประสบอยู่ทุกปี โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิต รวมถึงความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนต่าง ๆ อาจกล่าวได้ว่าเหตุการณ์นี้มีสาเหตุมาจากโครงสร้างของพื้นที่บ้านเราด้วย แต่อีกสาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากการตัดไม้ทำลายป่าและภาวะโลกร้อนค่ะ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้อยากให้ทุกท่านเตรียมรับมือกันดี ๆ นะคะ
3. เศรษฐกิจชะลอตัว ติดขัด
เป็นที่รู้กันนะคะ เนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วทั้งโลกแทบจะหยุดชะงัก โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะไทย เกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้แต่โซนยุโรป อเมริกาก็ต่างได้รับผลกระทบกันไปหมด สิ่งถัดมาที่จะต้องเตรียมตัวรับมือกันก็คือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ติดขัด หรือหยุดชะงัก มากไปกว่านั้นยังมีคนตั้งข้อสันนิษฐานว่าเร็ว ๆ นี้อาจจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ “ฟองสบู่แตก” อีกครั้ง ดังนั้นครึ่งปีหลังจากนี้อยากให้ทุก ๆ ท่านมีสติในการใช้จ่ายกันมาก ๆ อันไหนเก็บได้ก็ขอให้เก็บ พยายามลดการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายสิ้นเปลือง อย่างน้อยก็ถือเป็นการรัดเข็มขัดทางการเงินกันแต่เนิ่น ๆ เนอะ
4. การขัดแย้งกันอย่างรุนแรงทางการเมือง
จากการที่ดาวพักรและถอยหลัง (หมายถึงว่าดาวเดินไปข้างหน้า แต่จะมีบางจังหวะที่หากมองจากโลก เราจะเห็นว่าดาวเดินช้าลงหรือหยุดนิ่ง ไม่ขยับ อีกทั้งดาววิปริตกำลังเดินไปในด้านที่กว้างกว่า) อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ให้ระวังเรื่องการเปลี่ยนแปลง เช่น อาจมีการก่อม็อป เกิดปัญหาการขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงมากขึ้น หรือแม้แต่การทะเลาะกัน แบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายกัน
นอกเหนือจากปัญหาใหญ่ ๆ เหล่านี้ อยากให้ทุกคนระวังเรื่องการเงินที่จะชะลอและฝืดเคืองแบบสุด ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นช่วงของการเลิกราหย่าร้างกันอีก ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาทำให้รักร้าว คนรักเก่าจะกลับมา หรือแม้แต่การคบกันแป๊ป ๆ ก็ต้องเลิกหรือหยุดความสัมพันธ์แบบงง ๆ เพราะโดนเค้าเทแล้วกลับไปหาคนเก่าซะอย่างงั้น ต้องระวังให้มากหน่อยนะคะ โดยเฉพาะชาวลัคนาราศีเมษ ตุลย์ พฤษภ พิจิก เมถุน และธนู
อยากให้ทุกคนมีสติอยู่กับตัวเสมอ กลัวหรือแพนิคได้นะคะ แต่อย่าตื่นตูมมากจนเกินไป พยายามดึงสติกลับมา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนหลักการของเหตุผลและความเป็นจริง และพยายามคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนรอบคอบก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป สิ่งสำคัญคืออย่าลืมดูแลใส่ใจตัวเองและคนที่คุณรักอยู่เสมอด้วยนะคะ